ประวัติความเป็นมา
ใน สมัยพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรหริภุญไชย
ชาติกำเนิดของพระนางจามเทวี
มีที่มาจากเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกัน ทั้งจากตำนาน
พงศาวดารและหลักฐานอื่นๆ ในตำนานจามเทวีวงศ์ กล่าวว่า
พระนางเป็นธิดาของกษัตริย์แห่งกรุงละโว้
ได้เดินทางพร้อมพระสงฆ์ผู้ทรงพระไตรปิฏกและช่างผู้มีฝีมือหลากหลายประเภทละ
๕๐๐ คน จากเมืองละโว้ สู่นครหริภุญไชย ในปีพุทธศักราช ๑๔๐๖
มกร, เหรา หรือตัวคาบนาค
เหรา นั้นเป็นสัตว์ในหิมพานต์ ซึ่งค่อนไปทางจำพวกจรเข้ ผสมกับนาค
หลายคนเชื่อว่ามันเป็นสัตว์ที่อยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ
ศาลเจ้าพ่อพญาแขนเหล็ก
จะกล่าวถึงเสนามหาอำมาตย์ที่ตามเสด็จผู้หนึ่ง ชื่อว่าพญาแขนเหล็ก
ท่านเป็นทหารเอกของเมืองหริภุญไชยท่านได้ป้องกันเมืองหริกุญไชยหลายต่อหลายครั้ง
ครั้งหนึ่งท่านได้ทำสงคราม กับทัพหลวงขุนวิลังคะ
อันเป็นเจ้าเมืองมิลักขะนคร ตั้งอยู่บนดอยสูงชื่ออุฉุจบรรพต
มีพลโยธามากถึง ๘๐,๐๐๐ คน
ศาลเสื้อวัด หรือผีเสื้อวัด
ผีเสื้อวัด เป็นผีที่ดูแลรักษาวัด บางแห่งเรียก เทวดาวัด
ในแต่ละวัดจะมีหอศาลตั้งอยู่ บางแห่งตั้งอยู่ในวัด
บางแห่งตั้งอยู่นอกวัด ถ้าตั้งอยู่นอกวัด
สถานที่นั้นจะเป็นที่ธรณีสงฆ์ หรือเป็นที่สาธารณะ
แต่ละวัดจะมีชาวบ้านอย่างน้อย ๑ คน เป็นผู้เอาใจใส่ดูแลหอศาล
มีหน้าที่จัดแจกันดอกไม้ประดับศาล เติมน้ำในคนโทให้เต็มอยู่เสมอ
และปัดกวาดทำความสะอาด ถ้าวัดมีงาน
ผู้ดูแลหอศาลจะเป็นคนนำพานข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียนไปบอกกล่าวให้ผีเสื้อวัดได้รับรู้
เพื่อขอให้ช่วยดูแลงานให้เรียบร้อย ไม่ให้เกิดเรื่องร้าย
หรืออย่าให้มีอุปสรรคใดๆ ระหว่างที่วัดมีงาน เช่น งานปอยหลวง
(งานฉลอง) จะกี่วันก็ตาม
ผู้ดูแลจะเป็นผู้จัดสำรับอาหารคาวหวานจากวัดไปถวายโดยตั้งไว้บนหอศาลทุกวัน
ช่วงพรรษา เมื่อถึงวันพระ
ศรัทธาชาวบ้านจะนำข้าวและอาหารมาทำบุญตักบาตรที่วัด
ทางวัดจะตั้งภาชนะเพื่อใส่ข้าว อาหาร
และขนมสำหรับถวายผีเสื้อวัดไว้ ๑ ชุด
หลังจากที่ชาวบ้านใส่ข้าวและอาหารพระพุทธ พระสงฆ์แล้ว
จะกันส่วนหนึ่งไว้เพื่อใส่ในภาชนะของผีเสื้อวัด
เมื่อยกไปถวายพระพุทธ พระสงฆ์แล้ว
ผู้ดูแลหอศาลจะเอาข้าวและอาหารไปถวายผีเสื้อวัด และจะทำทุกวันพระ
หรือเมื่อมีงานในวัด